ดนตรีป๊อป News and Stories

คัดพิเศษโดยบรรณาธิการ
อัลบั้มที่สองของ Calum Scott ที่คนกำลังอกหักต้องฟังเพื่อรีดน้ำตา

หลังจากที่ช่วงหลังนี้ Sam Smith เหมือนจะแผ่วไปเยอะ เราพร้อมกันหรือยังที่จะพบกับ Adele ในเวอร์ชั่นเกย์คนถัดไป เพราะอัลบั้มใหม่ของ Calum Scott ชื่อ Bridges หลังจากประสบความสำเร็จในอัลบั้มแรกอย่าง Only Human จะมาตอบทุกความต้องการของเรา หรือเปล่านะ ถ้าคุณกำลังอยู่ในช่วงกำลังอกหัก หัวใจกำลังเจ็บ บอกเลยว่าทุกเพลงรวมความยาว 49 นาทีจะกลายเป็นซาวด์แทร็กเสริมความดราม่าให้กับชีวิตของคุณอย่างแน่นอน ด้วน้ำเสียงคร่ำครวญเปิดตัว “Biblical” จะเซ็ทอารมณ์แห่งความรักและหนามที่คอยทิ่มแทงหัวใจในเพลงไตเติ้ลของอัลบั้ม “เพลงไตเติ้ล ‘Bridges’ เป็นเพลงที่เป็นส่วนตัวและเป็นเพลงที่ยากที่สุดที่ผมเคยเขียน” Calum กล่าว “มันเป็นช่วงเวลาที่มืดมนในชีวิตของผม เป็นจุดที่แย่มาก ๆ และผมได้แต่ถามตัวเองว่ายังมีความเข้มแข็งพอที่จะเดินบนทางนี้ได้อยู่ไหม ผมคิดอยู่นานว่าควรจะรวมเพลงนี้ไว้ในอัลบั้มดีหรือเปล่า ด้วยความที่มันเป็นเรื่องราวส่วนตัวของผมเอง แต่สุดท้ายแล้ว ผมก็ต้องทำ” “ผมเคยเห็นว่าการซื่อสัตย์กับตัวเอง อย่างในเพลง ‘No Matter What’ ในอัลบั้มแรกมีผลกับคนที่ได้ฟังเพลงที่เคยมีประสบการณ์คล้าย ๆ กันมากแค่ไหน และมันกลายเป็นสิ่งที่สำคัญกับผมมาก การเข้าใจถึงความรู้สึกของกันเป็นเป้าหมายที่ผมมองหา มันคือการได้สร้างความแตกต่างในดนตรีของตัวเอง และบันดาลใจให้เกิดความรักซึ่งกันและกัน[…]

Read the full story
คนดัง
เราต้องคุยกันเรื่องพ่อของ Dua Lipa

ถึงเวลาที่เราจะต้องคุยกันเรื่องพ่อของ Dua Lipa กันอย่างจริงจัง พวกเราทุกคนน่าจะรู้จักนักร้องผู้มากความสามารถพร้อมรางวัลแกรมมี่ถึงสามครั้ง และบุคคลผู้มีอิทธิพลแห่งปี 2021 จากนิตสาร TIME อย่าง Dua Lipa แต่วันนี้เราต้องคุยกันเรื่องพ่อของเธอ Dukagjin Lipa มาจากประเทศโคโซโวและเป็นผู้ก่อตั้งและ CEO ของ REPUBLIKA Communications Agency รวมถึงผู้อำนวยการของ Sunny Hill Festival (ที่ Dua Lipa ร่วมแสดงในปี 2018) และประธานองค์กร Sunny Hill Foundation และที่สำคัญที่สุดก็คือเขานั้น … หล่อ มาก มาก นี่คือครั้งแรกที่เราเห็น Dukagjin Lipa ที่งาน 2019 BRIT Awards: นักแสดงตลกชาวอังกฤษชื่อ Jack Whitehall ถึงกับต้องบอกว่า[…]

Read the full story
คัดพิเศษโดยบรรณาธิการ
เราได้รวบรวมโมเมนท์ที่เกย์ที่สุดจากวงการเคป๊อปมาให้ทุกคนได้ดูกัน

คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าเคป๊อปได้กลายเป็นปรากฎการณ์ระดับโลกที่มีแฟนๆตัวจริงอยู่ทั่วโลก — แต่ก็เพราะดนตรีที่สนุก สไตล์การแต่งตัวของไอดอลแต่ละคน ความสามารถในการแสดงที่สุดยอด และแน่นอนว่าด้วยความหล่อสวยของพวกเขา พวกเขาไปออกรายการทีวีพร้อมบุคลิกที่ตลกและเข้าถึงได้ และบ่อยครั้งที่พวกเขายอมทำอะไรเกย์ๆให้แฟนๆได้ลุ้นกันแบบสดๆอีกต่างหาก พวกเขาทำเพราะแฟนๆขอร้องรึเปล่า ก็ใช่ แล้วมันได้ผลมั๊ย ก็ใช่อีกนั่นแหละ ถึงขั้นที่ว่าแค่ไปค้นหาบน Youtube คุณก็จะได้เจอกับวีดีโอรวบรวมโมเมนท์เกย์ๆแห่งเคป๊อปมากมาย ลองไปดูวีดีโอเกย์เคป๊อปของคนนี้กัน: หลายๆวีดีโอบน Youtube นอกจากจะยาวเกิน 15 นาทีแล้วยังมีหลายพาร์ทด้วย ส่วนหนึ่งก็เพราะความทุ่มเทของแฟนๆเคป๊อปทุกคน โดยในวีดีโอก็จะมีทั้งการเล่นเกมจูบ การกอดกันน่ารักๆ รวมถึงการจับมือกันทั้งบนเวทีและนอกเวทีด้วยนะ กลุ่มผู้ชมทางตะวันตกอาจจะกลายเป็นแฟนเคป๊อปช้ากว่าที่อื่นในโลก แต่ทั้งดนตรีและความบันเทิงของเกาหลีนั้นได้รับความนิยมนอกเกาหลีมานานแล้ว ทั้งทางตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ของเอเชีย แอฟริกาเหนือ และแอฟริกาใต้ และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าแฟนๆในอเมริกาก็เริ่มจะตามทันแล้วล่ะ เพราะหลายๆกรุ๊ปจากเกาหลีก็ได้ปรากฎตัวบนรายการโทรทัศน์ อย่างเช่นรายการของ Jimmy Fallon และ James Corden หรือแม้กระทั่งนิตยสาร TIME ที่ออกนิตยสารฉบับหนึ่งที่พูดถึงวง BTS ว่าเป็น “วงเคป๊อปที่พิชิตโลกทั้งใบ” คงเป็นเรื่องชัดที่ว่าเคป๊อปจะมาอยู่กับวัฒนธรรมของเราอีกนาน เราคงได้เห็นแฟนๆเคป๊อปที่ยอมตามทุกการแสดง แฟชั่น การทำเว็บไซท์เพื่ออัพเดทข้อมูลข่าวสารต่างๆน่ารักๆ เช่นแฟชั่นสนามบิน รวมถึงโมเมนท์เกย์หลายๆครั้งที่เราต้องจิกหมอน หลายๆคนคงรู้ว่าการรักร่วมเพศในเกาหลีใต้นั้นยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่นัก แต่เหมือนว่าทุกอย่างกำลังค่อยๆเปลี่ยนไป[…]

Read the full story
ดนตรี
อัลบั้มใหม่ของ Tame Impala กับเพลงรักที่ฉุ่มฉ่ำกับที่สุดของ Kevin Parker

ผมยอมรับว่าตัวเองไม่ได้ชอบสองเพลงแรกของ Tame Impala อย่าง Innerspeaker และ Lonerism ถึงขั้นไม่ยอมฟัง Currents ในปี 2015 ที่ Kevin Parker ได้กลายร่างมาเป็นอินดี้ป๊อปที่สุดยากจะหยั่งถึง ผ่านมาห้าปีกับอัลบั้มใหม่ของ Tame Impala ชื่อ The Slow Rush ที่นอกจากจะรักษาคุณภาพดั้งเดิมของเขาเอาไว้ นี่ยังเป็นผลงานที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยความรักที่สุดในชีวิตศิลปินของเขาเลยทีเดียว นอกจากเพลง “It Might Be Time” (ที่ดูฉีกตัวออกมาจากเพลงอื่นๆในอัลบั้ม) The Slow Rush คือเสียงของชายที่กำลังมีความรักและมองทุกอย่างเป็นสีปริซึมไปหมด Parker เป็นคนที่ไม่เคยกลัวที่จะต้องใช้เอฟเฟ็กต์ต่างๆ แต่การใช้เอฟเฟ็กต์ของเขาครั้งนี้เหนือกว่าทุกครั้งที่เคยทำ เช่นการแยกส่วนในห้องแห่งความแวววาว (“One More Year”) จังหวะว่างๆกับเปียโนในเพลง “Breathe Deeper” หรือเอฟเฟ็กต์ที่คล้ายกับ “Everybody Wants to Rule the[…]

Read the full story
Quantcast