มาฟังเรื่องราวนี้ที่พิสูจน์ว่าโรงเรียนล้มเหลวในการดูแลนักเรียนที่เป็นกลุ่มแปลงเพศ
This post is also available in: English
เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ดีอยู่แก่ใจว่าบุคลากรในโรงเรียนมักจะมีวิธีการดูแลเด็กนักเรียนเพศทางเลือกที่ไม่ปกติ บางครั้งอาจเป็นเพราะความไม่รู้ บางครั้งก็เป็นความเกลียดชังที่ถูกบังด้วยผ้าบางๆ และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้เลยในปี 2018 หนึ่งในหลายๆเรื่องที่น่าผิดหวังคือความล้มเหลวของโรงเรียนกับนักเรียนแปลงเพศคนหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาในรัฐ Virginia
ในเขต Stafford ที่รัฐ Virginia โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งได้มีการซ้อมการป้องกันตัวในเหตุการณ์ที่ไม่ปลอดภัยเช่นการกราดยิงในโรงเรียน เพราะนั่นเป็นเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ ส่วนหนึ่งของการซ้อมก็คือนักเรียนจะต้องหาที่กำบังและหลบซ่อนในห้องล๊อคเกอร์ของโรงเรียน ซึ่งมีการแบ่งเป็นเพศชายและเพศหญิง
นักเรียนแปลงเพศคนหนึ่งต้องผิดหวังเมื่อครูหลายๆคนไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะให้เธอไปซ่อนตัวยังห้องล๊อคเกอร์ของนักเรียนเพศไหนกันแน่ แม้ว่าจริงๆแล้วห้องล๊อคเกอร์ของนักเรียนหญิงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะนั่นคือสิ่งที่เธอเป็น แต่อย่าลืมว่าในเหตุการณ์ดังกล่าว ห้องล๊อคเกอร์ไม่ได้ถูกใช้เพื่อเก็บของด้วยซ้ำ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นแพร่กระจายออกไปอย่างกว้างขวางเมื่อกลุ่มผู้สนับสนุนเพศทางเลือก Equality Stafford แชร์เรื่องที่เกิดขึ้นบนเฟสบุ๊ค
Equality Stafford Community, This past week, an incident occurred during a middle school lock down drill in Stafford…
Posted by Equality Stafford on Wednesday, October 3, 2018
“นักเรียนคนดังกล่าวจะต้องทนดูผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในความเป็นอยู่ของเธอมาเถียงกันเรื่องความปลอดภัย(ของนักเรียนคนอื่นๆ)ในการปกป้องตัวเองของเธอ” โพสท์เขียน “ในระหว่างการหาข้อสรุป เธอถูกบอกให้ไปนั่งในโรงยิมเพียงคนเดียวจนกว่าการซ้อมจะเสร็จสิ้น และนั่นทำให้เธอรู้สึกแปลกแยกจากคนอื่น หลังจากการได้ข้อสรุปจากครูในโรงเรียน เธอถูกสั่งให้นั่งอยู่ตรงกลางห้องโถงล๊อคเกอร์ใกล้ๆกับประตูและแยกจากกลุ่มเพื่อนคนอื่นๆ โดยสาเหตุก็เพราะว่านอกจากเธอจะเป็นนางแบบแล้ว เธอยังเป็นกลุ่มแปลงเพศด้วย”
องค์กรกลุ่มผู้สนับสนุนได้เชิญชวนให้ประชาชนที่มีความกังวลได้เข้าร่วมการประชุมของโรงเรียนและอธิบายความไม่พึงพอใจกับมาตรการของโรงเรียน ซึ่งนอกจากจะไม่มีเหตุผลแล้วยังเป็นวิธีที่อาจทำให้เกิดผลเสียร้ายแรงกับตัวนักเรียนเองได้
ในโพสท์ที่สองบนเฟสบุ๊คหลังจากการประชุม Equallity Stafford ได้ย้ำว่าแม้ว่ามาตรการของโรงเรียนจะยังคงล้มเหลวในการดูแลนักเรียนที่เป็นกลุ่มแปลงเพศ การให้ความรู้ที่ถูกต้องยังคงเป็นกุญแจในการแก้ปัญหาดังกล่าว
“คุณครูเหล่านี้ต้องการการให้ความรู้และการสนับสนุน และเราต้องการให้คุณประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหา” โพสท์ดังกล่าวเขียนไว้ “ได้โปรดสนับสนุนเราและครอบครัวของเราด้วยการเน้นสิ่งที่คุณต้องการให้เกิดขึ้นและเล่าเรื่องราวของคุณให้เราฟัง ขอบคุณที่คอยเป็นปากเสียงให้กับเรา มาร่วมมือกันเดินหน้าด้วยวิธีที่เป็นผลดีกับเราทุกคน”
ให้หลัง หลายๆโรงเรียนใน Stafford ต่างมีประกาศของตัวเองออกมา โดยมีเนื้อหาประมาณว่า “ผู้ดูแลโรงเรียนได้มีการเรียกร้องให้ทบทวนมาตรการและขั้นตอนต่างๆเพื่อให้มั่นใจว่านักเรียนของเราจะได้รับการดูแลและปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างให้ความเคารพ”
จนถึงตอนนี้ เรายังคงไม่เห็นรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงใดๆจากโรงเรียนเกี่ยวกับนักเรียนที่เป็นกลุ่มแปลงเพศ
