มิวสิคัล ‘คุณนายเด๊าท์ไฟร์’ ที่กำลังจะมาถึงอาจไม่เหมาะกับยุคแปลงเพศและ #MeToo อีกต่อไป
This post is also available in: English
ดูเหมือนว่าภาพยนตร์คอมเมดี้ปี 1993 ของรอบบิน วิลเลี่ยมส์เรื่อง Mrs. Doubtfire จะได้เป็นการแสดงมิวสิคัลบรอดเวย์ในไม่ช้า โดยจะได้รับการกำกับโดยผู้กำกับที่เคยได้รับรางวัลโทนี่อวอร์ดถึง 4 ครั้งอย่างเจอร์รี แซ็กส์ และแม้ว่าภาพยนตร์คอมเมดี้เรื่องนี้จะตลกในยุคนั้น แต่เราก็อดถามไม่ได้ว่า “เรื่องคุณนายเด๊าท์ไฟร์นั้นมีความกลัวกลุ่มแปลงเพศหรือไม่?” และมันจะเป็นอย่างไรบ้างในยุค #MeToo เราลองมาดูกัน
มองในมุมหนึ่งแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นภาพยนตร์ตลกเกี่ยวกับคุณพ่อคนหนึ่งที่ตัดสินใจแต่งตัวเป็นผู้หญิงแก่เพื่อจะได้เป็นพี่เลี้ยงของลูกๆและอยู่ใกล้ๆพวกเขาหลังจากที่เขาสูญเสียสิทธิ์ในการเลี้ยงดูจากการหย่ากับภรรยา
แต่เมื่อมองอีกมุมหนึ่งก็เป็นเรื่องราวของคนติดแอลกอฮอลล์ที่ปลอมตัวเพื่อแอบตามลูกๆของตัวเองและทำลายชีวิตรักของอดีตภรรยาโดยการรังควานคนรักของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า และยังมีเรื่องการโกหกคนที่เขาบอกว่าเขารักที่สุดอีกด้วย
แดเนียล ฮิลลาร์ด ตัวละครผู้เป็นพ่อในเรื่อง จงใจหลอกภรรยาเก่าของเขาในขณะที่บุกรุกบ้านของเธอ แอบตามเธอ และเกือบจะฆ่าแฟนใหม่ของเธอ (ทำให้เขาต้องกินกุ้งที่มีพริกป่นตัวหนึ่ง ซึ่งแดเนียลรู้ดีว่าเขามีอาการแพ้พริกป่น)
มิวสิคคัลคุณนายเด๊าท์ไฟร์ในยุค #MeToo
หลายคนที่ไม่เห็นด้วยมักจะบอกว่าเรื่องคุณนายเด๊าท์ไฟร์เป็นภาพยนตร์ตลกที่ไม่ควรจะต้องจริงจังกับสิ่งที่เกิดขึ้น และแม้ว่าคุณพ่อฮิลลาร์ดจะเป็นตัวละครที่น่ารัก เป็นคุณพ่อที่โชคร้ายมากกว่าปีศาจร้ายผู้ใช้ความรุนแรง อดีตภรรยาของเขาก็ให้อภัยเขาในตอนท้ายเพราะความดีที่เขาทำตอนที่เขาเป็นคุณนายเด๊าท์ไฟร์ แม้ว่าจะมีหลายเรื่องแย่ๆที่เขาได้ทำลงไป
ตัวละครภรรยาของฮิลลาร์ดเป็นผู้หญิงมากความสามารถ เธอเป็นคุณแม่ที่ทั้งรัก รับผิดชอบ และมีรายได้สูง แต่ในยุค #MeToo ทำให้เราได้ยินเรื่องราวของผู้ชายที่แอบตามและพยายามควบคุมผู้หญิง โดยที่พวกเขายังไม่ได้รับผลของการกระทำที่ทำลงไป (แม้ว่าฮิลลาร์ดจะเสียสิทธิ์ในการดูแลลูกไปแล้วก็ตาม)
คงเหลือแค่การรอดูว่าสุดท้ายแล้วละครเวทีคุณนายเด๊าท์ไฟร์จะออกมาเป็นอย่างไรในสายตาผู้ชมที่อาจจะไม่ได้ใจกว้างต่อการกระทำหลอกลวงของคุณพ่อคนนี้มากเท่ากับคนอื่นนัก
คุณนายเด๊าท์ไฟร์ กลัวกลุ่มแปลงเพศหรือไม่
เรื่องคุณนายเด๊าท์ไฟร์ทำให้เกิดการดูถูกกลุ่มคนแปลงเพศในหลายๆด้าน สตรีแปลงเพศหลายๆคนบอกว่าพวกเธอเคยถูกเรียกอย่างล้อเลียนว่า “คุณนายเด๊าท์ไฟร์” และมีครั้งหนึ่งที่สำนักข่าว Fox News ใช้ภาพของคุณนายเด๊าท์ไฟร์ที่กำลังดับไฟบนหน้าอกปลอมของเธอในข่าวด้านสุขภาพของประชาชนกลุ่มแปลงเพศ
ยังไงซะ ตัวภาพยนตร์เองและหนังสือที่เป็นต้นแบบต่างไม่ใช่เรื่องของสตรีแปลงเพศ แต่เป็นเรื่องราวของชายแต่งตัวข้ามเพศคนหนึ่งที่แสดงตัวเป็นผู้หญิงขณะที่ตัวเองยังเป็นชายแท้
ในภาพยนตร์มีอยู่สามฉากที่ทำให้หลายๆคนจำได้ชัด ฉากแรกคือตอนที่ภรรยาเก่าของฮิลลาร์ดพูดว่า “อี๋” เมื่อพี่เลี้ยงที่เธอกำลังพูดโทรศัพท์ด้วยเปิดเผยว่าเธอ”เคย”เป็นผู้ชายมาก่อน อีกฉากหนึ่งคือตอนที่คุณนายเด๊าท์ไฟร์กำลังอยู่กับลูกๆโดยใช้เพลงประกอบฉากชื่อ “Dude Looks Like a Lady (ผู้ชายอะไรเหมือนผู้หญิง)” และฉากสุดท้ายตอนที่ลูกชายของเขาเรียกคุณนายเด๊าท์ไฟร์ว่า”ครึ่งหญิงครึ่งชาย” หลังจากที่เห็นเธอยืนฉี่
แม้ว่าในเรื่องจะมีคู่รักเกย์ (คุณลุงแฟรงค์และคุณป้าแจ๊ค นักแต่งหน้าสองคนที่ช่วยแปลงโฉมให้กับคุณนายเด๊าท์ไฟร์) แต่ก็ยังเป็นการแสดงถึงการแต่งกายข้ามเพศเพื่อหลอกคนในครอบครัวและคนอื่นๆ (เหมือนกับคนขับรถบัสที่ชนคุณนายเด๊าท์ไฟร์ในช่วงกลางเรื่อง)
จะอย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในข้อแก้ตัวของความรุนแรงต่อสตรีแปลงเพลงมาจนถึงวันนี้
