6 สิ่งที่ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับจู๋จากการทำงานในคลินิกโรคทางเดินปัสสาวะ
This post is also available in: English Português Русский Українська
พวกเราหลายๆคนที่ Hornet ก็มีงานประจำของตัวเอง โดยก่อนหน้านี้ผมเคยทำงานในคลินิกโรคทางเดินปัสสาวะชาย และผมได้เรียนรู้ข้อเท็จจริงหลายๆอย่างจากการทำงานที่นั่น
ลองมาฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับจู๋ที่ผมได้เรียนรู้กัน
1. จู๋เล็กเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นน้อยมาก แต่จู๋หลบในกลับไม่ใช่อย่างนั้น
การจู๋เล็กกว่ามาตรฐาน (ใช้เรียกอวัยวะเพศชายที่มีความยาวน้อยกว่า 2.8 นิ้ว) เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป แต่อาการที่เกิดขึ้นเพราะความผิดปกติที่รักษาได้นั้นเกิดขึ้นเพียง 0.6% ของประชากรเพศชายเท่านั้น และการบำบัดโดยใช้ฮอร์โมนและการผ่าตัดก็สามารถแก้ไขอาการนี้ได้
ในหลายกรณีของอาการจู๋เล็กกว่ามาตรฐาน แท้จริงแล้วเป็นอาการที่เรียกว่าจู๋หลบใน — อาการที่จู๋หลบอยู่ภายใต้ชั้นไขมันบริเวณหน้าท้องช่วงล่าง ซึ่งมักพบได้ในเด็กที่มีไขมันเยอะ และผู้ปกครองมักคิดว่าเด็กมีอาการจู๋เล็กกว่าปกติ แต่หากคุณกดบริเวณไขมัน จู๋ของเด็กก็จะปรากฎออกมาเหมือนกับหัวเต่า และปัญหานี้เกิดขึ้นได้บ่อยมากจนนิตยสาร New York Times ต้องเขียนบทความถึงเลยทีเดียว แต่นอกอาการจู๋หลบในทำให้การทำความสะอาดยากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
2. ผู้ปกครองมักคาดหวังให้ลูกของตัวเองมีจู๋ที่สวยงามไร้ที่ติ
ผู้ปกครองมักจะมีความกังวลมากเมื่ออวัยวะเพศชายของลูกๆดูแปลก โดยพวกเขามักคิดว่าเด็กมีหนังหุ้มปลายเยอะเกินไป (ซึ่งน่าจะไม่จริง) ไม่ตรงเท่าที่ควร (ซึ่งก็น่าจะจริง) หรือเล็กเกินไป (คุณผู้หญิงจ๋า เด็กพึ่งห้าขวบ ใจเย็นๆนะ เค้าไม่ได้จะไปเป็นดาราหนังโป๊ซะหน่อย) และจากบทความของ New York Times ที่เราพูดถึงเขียนไว้ว่า:
“ผมเห็นความไม่พึงพอใจในอวัยวะเพศเป็นปกติ” Aseem Shukla คุณหมอระบบทางเดินปัสสาวะจากโรงพยาบาลเด็ก Hospital of Philadelphia และรองศาสตราจารย์ที่คณะแพทย์ศาสตร์จากมหาวิทยาลัย University of Pennsylvania กล่าว เขาบอกว่าเมื่อเด็กอายุได้ 10 ถึง 11 ปี ประโยคที่เขาได้ยินอยู่เสมอคือ “ลูกชายของฉันมีอวัยวะเพศชายที่สั้นผิดปกติ”
โดยส่วนใหญ่แล้วจู๋ของเด็กๆไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย และเด็กๆส่วนใหญ่ล้วนมองข้ามสิ่งเหล่านี้ และอย่าลืมว่าจู๋นั้นมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว อย่าทำให้เด็กมีภาพลักษณ์ต่อร่างกายของตัวเองที่ไม่ดีเลยนะ
3. พฤติกรรมแย่ๆของคุณจะทำร้ายจู๋ของคุณเอง
เมื่อพูดถึงสุขภาพโดยรวม จู๋ของคุณก็เหมือนกับนกขมิ้นในเหมืองขุดแร่ มันจะตายเป็นอย่างแรกเมื่อพฤติกรรมของคุณเริ่มทำร้ายร่างกายตัวเอง
อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศมักเกิดจากการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงบริเวณอวัยวะเพศไม่ดี ฉะนั้นเกลือ บุหรี่ และไขมันเลว ล้วนมีผลทำให้การแข็งตัวของอวัยวะเพศยากขึ้นทั้งนั้น
การทานน้ำตาลมากเกินไปก็สามารถทำลายจู๋ของคุณได้เช่นกัน คุณรู้ใช่ไหมว่าโรคเบาหวานทำลายเท้าของคุณได้ แน่นอนว่าจู๋ของคุณก็สามารถเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้ได้
แต่แน่นอนว่าพฤติกรรมที่ดีก็สามารถรักษาจู๋ของคุณไว้ได้เช่นกัน การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสามารถพัฒนาระบบการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้นได้ ถ้านี้ยังไม่ทำให้คุณไปเข้าฟิตเนสออกกำลังกาย ผมก็ไม่รู้ว่าจะบอกยังไงดี
แต่แล้ว…
4. ผู้ชายส่วนมากก็ไม่ทำอะไรเกี่ยวกับจู๋ของตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ดี
การมีไลฟ์สไตล์ที่ดีและการดูแลโดยแพทย์สามารถรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ อาการฮอร์โมนเพศชายต่ำ การมีบุตรยาก และปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะอื่นๆ แต่ผู้ชายหลายคนกลับไม่สนใจ พวกเขาไม่ยอมเลิกบุหรี่ ไม่ยอมเลิกยาเสพติด ไม่ยอมลดเบอร์เกอร์มื้อเย็น ไม่ยอมลองหาวิธีรักษาใหม่ๆ เหมือนกับว่าพวกเขายอมรับจู๋ที่ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ของพวกเขาไปแล้ว
ผู้ชายหลายคนยอมอยู่กับอวัยวะเพศที่ทำงานไม่ปกติเป็นระยะเวลาหลายปี จนกระทั่งภรรยาของพวกเขาบังคับให้ไปหาหมอ ผู้ชายมีความหลงไหลในอวัยวะเพศของตัวเองมาก แต่เมื่อถึงเวลาต้องดูแล พวกเขากลับมองข้ามมันไปอย่างง่ายดาย ซึ่งสาเหตุหนึ่งก็อาจมาจากความอาย เพราะคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยอมรับว่าจู๋ของคุณไม่ปกติ และคงยากกว่าที่จะต้องไปนอนอ้าขาให้กับผู้ชายในชุดสีขาวมาจับๆคลำๆของรักของคุณ
5. หากทุกอย่างไม่ได้ผล ลองใช้จู๋พองตัว
หากคุณมีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และไม่มีอะไรที่ได้ผล แม้กระทั่งไวอากร้า การบำบัดฮอร์โมน การฉีด TriMix คุณอาจจะต้องใช้จู๋พองตัวเป็นทางเลือกสุดท้าย
วิธีการทำงานก็คือการสอดใส่ท่อนิ่มๆเข้าไปบริเวณลำตัวของอวัยวะเพศโดยการผ่าตัด ซึ่งสามารถทำการเติมน้ำเกลือสะอาดเพื่อทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ และก็สามารถนำน้ำเกลือออกเพื่อให้อวัยวะเพศหดตัวได้เช่นกัน โดยจะมีเครื่องบีบในบริเวณอัณฑะและน้ำเกลือสะอาดบริเวณหัวหน่าว ทุกสิ่งที่เราพูดถึงจะถูกซ่อนอยู่ภายใต้ชั้นผิวหนังและดูไม่มีอะไรผิดไปจากปกติ
โดยคนไข้ส่วนใหญ่รู้สึกพอใจหลังจากรับการผ่าตัดไปแล้ว (รวมถึงคู่นอนของเขาด้วย)
แต่อย่างไรก็ตาม…
6. จู๋ที่แปลกประหลาดของคุณอาจจะไม่ได้มีปัญหาอะไร (และอาจจะไม่ได้แปลกประหลาดอะไรขนาดนั้นด้วย)
ถ้าจู๋ของคุณมีรูปร่างที่แตกต่างไปจากที่คุณคิดไว้ นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เอียงไปข้างนึงหรอ ถ้ามันไม่ได้ทำให้คุณหรือคู่นอนของคุณเจ็บปวด นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา แต่หากจู๋ที่ตรงเป๊ะสำคัญสำหรับคุณถึงขั้นที่คุณยอมฉีดสารเข้าไปในจู๋ของตัวเองก็ตามสบายเถอะ
คุณมีลูกอัณฑะอันเดียวหรอ คนส่วนใหญ่ที่มีอัณฑะลูกเดียวก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติไม่มีปัญหาอะไร
เส้นเลือดดำขอดบริเวณถุงอัณฑะหรอ ไม่แปลกอะไร เพราะผู้ชาย 1 ใน 10 คนเคยมีอาการเส้นเลือดดำขดบริเวณนั้นในช่วงหนึ่งของชีวิต โดยบางครั้งอาจทำให้รู้สึกเจ็บ มีบุตรยาก และฮอร์โมนเพศชายต่ำ แต่ไม่ได้มีผลเสียอื่นๆต่อร่างกายเลย
(แน่นอนว่าถ้าคุณมีความกังวลเกี่ยวกับอวัยวะเพศของตัวเอง การไปหาหมอก็ย่อมดีกว่าการฉีดอะไรเข้าไปในจู๋ของตัวเองโดยไม่ถามใครก่อน)
สิ่งสำคัญคือการเข้าใจว่าจู๋ทุกอันมีความแตกต่างไม่เหมือนกัน ทั้งขนาด รูปทรง และสี และอย่าเครียดกับมันจนเกินไป เพราะส่วนใหญ่แล้วจู๋ของคุณไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก
เราพลาดอะไรสำคัญไปหรือเปล่า มีอะไรบ้างที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนมั๊ย
บทความนี้เขียนครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2020 และมีการแก้ไขเพิ่มเติม