Blow Buddies เซ็กส์คลับที่ใหญ่ที่สุดในซานฟรานซิสโกอาจถูกบังคับปิดตัว
This post is also available in: English
“ผมยังไม่อยากเชื่อเลยว่าที่นี่มีร้านชื่อ Blow Buddies ด้วย” John Waters เคยพูดกับ San Francisco Chronicle ครั้งหนึ่ง แน่นอนว่าเขากำลังพูดถึงเซ็กส์คลับเกย์เรียบๆในย่าน SoMa แต่สนามเด็กเล่นของเกย์นี้อาจต้องเตรียมตัวพบกับข่าวร้ายเมื่อตึกที่เคยเป็น Blow Buddies กำลังถูกวางขายในตลาดอสังหา
จากข้อมูลของ SFist หากเจ้าของใหม่ของอาคารที่เคยเป็น Blow Buddies มานานถึง 3 ทศวรรษไม่ได้มีความสนใจที่จะปล่อยเช่าให้กับเซ็กส์คลับ ชุมชนเกย์ของเมืองอาจต้องเสียพื้นที่นี้ในท้ายที่สุด แต่ก็มีรายงานว่าเจ้าของ Blow Buddies ยังคงมีเป้าหมายที่จะรักษาเซ็กส์คลับไว้เพื่อให้กับลูกค้าของพวกเขาอย่างเต็มที่
ดูเหมือนว่าอาคารนี้ได้ถูกซื้อไปในราคาเพียงราวๆ 15 ล้านบาทในปี 1993 แต่ตอนนี้กลับมีราคาสูงถึงราว 100 ล้านบาท — ซึ่งถือว่าเป็นราคามาตรฐานของซานฟรานซิสโก ซึ่งในเมืองได้มีการพัฒนาแก้ไขภาพลักษณ์ให้ดีขึ้น โดยมักจะเป็นพื้นที่ของชุมชน LGBTQ รวมถึงกลิ่นอายความเป็นอิสระและการต่อต้านของเมืองที่ถูกเปลี่ยนแปลง
มีหลายคนที่บอกว่าอาคาร Blow Buddies ยังไม่ได้ถูกขายเพราะข้อจำกัดทางด้านขนาดของตัวอาคารเอง ซึ่งเจ้าของคนใหม่จะไม่สามารถขยายส่วนสูงของอาคารไปมากกว่า 30 ฟุตได้ นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่สามารถสร้างให้เป็นคอนโด นอกจากนั้นตัวอาคารยังมีข้อจำกัดว่าต้องใช้เพื่อ “เป้าหมายทางการค้า การผลิต ที่พักอาศัย ธุรกิจบริการ และกิจกรรมด้านอุตสาหกรรมเพียงเล็กน้อย นอกจากนั้นยังต้องรักษารวมถึงสนับสนุนกิจกรรมทางศิลปะของเมืองไว้”
จริงๆแล้ว Blow Buddies นั้นถือว่าเป็นคลับแบบปิด นั่นหมายความว่านอกจากลูกค้าจะต้องจ่ายเงินค่าสมาชิกแล้วยังต้องจ่ายค่าเข้าเป็นเงินราว 500 บาททุกครั้ง ซึ่งเปิดให้บริการถึงเวลา 6 โมงเช้า แต่มักจะปิดรับลูกค้าเพิ่มในช่วงเวลาตีสองครึ่งจนถึงตีสี่
ในพื้นที่ 6,000 ตารางฟุตของ Blow Buddies จะมีทั้งรูพิศวาส ห้องเล่น ห้องกระจก ห้องมืด และพื้นที่สนามด้านหลังของตัวอาคาร โดยเครื่องแต่งกายที่ทางร้านแนะนำก็ได้เครื่องหนัง เครื่องยาง สายรัด และกางเกงใน — หรือจะไม่สวมใส่อะไรเลยก็ได้ — โดยในแต่ละวันของสัปดาห์ก็จะมีธีมที่แตกต่างกันไป อย่างเช่นคืนเปลือย (วันพุธ) และคืนกีฬาทางน้ำ (วันพุธที่สองของแต่ละเดือน)
ยังไงเราก็หวังว่า Blow Buddies จะยังไม่ไปไหน โดยเฉพาะเพื่อให้ John Waters — หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Pope of Trash” และ “Prince of Puke” — ได้ตกใจกับความหิวกระหายของเกย์ชาวซานฟรานซิสโก
