10 สาเหตุที่คนรักนอกใจคู่ของตัวเอง
การนอกใจเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับใครหลายๆคน และมันยังเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยอีกด้วย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คลินิกของผมมีคู่รักและคนโสดจำนวนมากที่พยายามหาเหตุผลและรักษาตัวเองจากประสบการณ์ที่สำให้เกิดแผลลึกในใจของพวกเขา บทความนี้ไม่ใช่บทความเกี่ยวกับการรักเดียวใจเดียว แต่เป็นการทำความเข้าใจสาเหตุในการนอกใจให้มากขึ้น
ตัวเลขสถิติชี้ว่าการนอกใจนั้นเกิดขึ้นสูงถึง 60% ของความสัมพันธ์ทั้งหมด แต่การนอกใจนั้นไม่ได้มีคำนิยามที่ชัดเจน และคู่รักส่วนมากไม่เคยพูดถึงว่าอะไรบ้างที่นับเป็น“การนอกใจ” แต่ผมคิดว่าคำนิยามของแต่ละคนนั้นไม่ใช่คำนิยามที่ดีนัก นักบำบัดบางคนถึงขั้นเรียกการดูสื่อทางเพศว่าเป็นการนอกใจระดับล่าง ฉะนั้นถึงเวลาที่เราจะต้องแยกแยะความคาดหวังที่เกินความเป็นจริงที่เรากำลังสร้างให้กับคู่รักของเรา
นี่คือสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดในการนอกใจ:
1. การรักเดียวใจเดียวเป็นเรื่องยาก
มนุษย์เรามีอายุที่ยืนยาวขึ้นอยู่เรื่อยๆ ซึ่งหมายความว่าความสัมพันธ์ที่มีนั้นก็จะนานขึ้นด้วยเช่นกัน และนั่นทำให้การประคองความรักและความสัมพันธ์ทางเพศกับคู่ของตัวเองเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามมากขึ้น
2. เซ็กส์เป็นตัวขับเคลื่อนมนุษย์ที่มีพลังมาก
การตื่นตัวทางเพศเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนมนุษย์ที่รุนแรงที่สุด ซึ่งบางครั้งถึงขั้นทำให้เราไม่สามารถห้ามตัวเองและจัดการลำดับความสำคัญได้ การตื่นตัวทำให้เราเต็มใจที่จะเอาอวัยวะแปลกๆใส่เข้าปากตัวเองได้ ยอมนอนดึก และพลาดงานสำคัญๆหลายๆอย่างได้อย่างง่ายดาย
3. วัฒนธรรมของเราทั้งคลั่งในเซ็กส์และกลัวเซ็กส์ไปพร้อมๆกัน
วัฒนธรรมของเรานั้นยังขาดการให้ความรู้ทางเพศ เราปฎิบัติต่อการมีความต้องการทางเพศและเรื่องทางเพศต่างๆเหมือนเป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่จะพูดคุยกัน แต่เรากลับคาดหวังให้ทุกคนเข้าใจถึงการจัดการอารมณ์ความต้องการและความสับสนทางเพศด้วยตัวเอง
4. ไม่มีใครถูกสอนวิธีการเข้าหาเซ็กส์
ทุกความสัมพันธ์จะต้องมีการขีดเส้นข้อจำกัดของตัวเองให้ชัดเจน และหากนั่นยังไม่มากพอ เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วทำให้คู่รักที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์พบว่าเซ็กส์เป็นเรื่องยากกว่าเดิม
5. ความกลัวในการสิ้นสุด
ไม่ใช่ทุกคู่รักที่พร้อมจะยอมรับว่าเมื่อความสัมพันธ์นั้นไปด้วยกันไม่ได้ การเดินออกมาจากความสัมพันธ์หรือแม้กระทั่งออกมาจากการแต่งงานนั้นไม่ใช่สัญญาณของความล้มเหลว แต่จริงๆแล้วความล้มเหลวคือการยอมทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อทั้งคู่ต่างหาก อันที่จริงแล้วสิ่งที่จะวัดคุณภาพของความสัมพันธ์นั้นไม่ใช่ระยะเวลาที่เราอยู่ด้วยกันแม้แต่น้อย
6. เรากลัวสื่อทางเพศและให้ความสัมพันธ์กับการช่วยตัวเองน้อยเกินไป
การโซโลกับตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยแฟนตาซี สื่อทางเพศ หรือของเล่น ล้วนเป็นวิธีการที่ดีต่อตัวเองและเป็นเครื่องมือที่ทำให้การรักเดียวใจเดียวเป็นไปได้ ซึ่งมันไม่ใช่การนอกใจเลยสักนิดเดียว แต่การห้ามสิ่งเหล่านี้เป็นการสร้างข้อจำกัดที่ไม่ดีและเป็นการสร้างฐานที่ไม่มั่นคงให้กับความสัมพันธ์ของคุณ
7. การรักเดียวใจเดียวไม่ได้เหมาะกับทุกคน
การรักเดียวใจเดียว การแต่งงาน และความสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องง่าย และมันไม่ใช่ความผิดของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเพราะวิธีการที่เรากำลังมองสิ่งเหล่านี้ด้วยบรรทัดฐานที่ไม่อยู่ในโลกของความเป็นจริง การรักเดียวใจเดียวนั้นไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะกับทุกๆคน
8. เราให้คุณค่าต่อการเข้ากันได้ทางเพศน้อยเกินไป
ความรู้สึกดึงดูดและชอบในตัวคู่ของคุณและความรักไม่จำเป็นจะต้องนำไปสู่การเข้ากันได้ทางเพศเสมอไป การรักเดียวใจเดียวถือเป็นความท้าทายหลักของคู่รักที่มีความต้องการและความสนใจทางเพศที่ไม่เหมาะกันต้องเผชิญ
9. เรามองว่าการมีเซ็กส์ไม่ใช่วิธีการสร้างความสัมพันธ์
เป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยที่เมื่อความสัมพันธ์กลายเป็นเรื่องจริงจัง การมีเซ็กส์กลับถูกลดความสำคัญลง การมีเซ็กส์น้อยลงไม่ได้หมายความว่าความต้องการจะน้อยลงไปด้วย และมันจะถูกแสดงออกด้วยวิธีอื่นๆ คุณควรทำเซ็กส์ให้เป็นเรื่องสำคัญและสร้างความอีโรติกอยู่เสมอๆ
10. การขาดความสามารถในการอดทนต่อความไม่มั่นใจทางเพศ
ความสัมพันธ์ที่แข็งแรงต้องการการพูดคุยกัน คุณต้องคุยกันถึงความเป็นอยู่ของความสัมพันธ์ที่คุณมี และคุณต้องบอกคู่ของคุณเมื่อคุณต้องการเซ็กส์ คุณต้องปรับความเข้าใจกันแม้ว่าจะต้องยอมรับว่าสิ่งที่คุณมีร่วมกันนั้นเป็นไปไม่ได้ หรือคุณมีความรู้สึกที่อยากจะนอกใจคนรักของคุณ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณจัดการได้
นี่ไม่ใช่การเปิดให้คู่รักของคุณมีอิสระอย่างเต็มที่และทำอะไรก็ได้ แต่เราจะต้องรู้ว่าทั้งเราและคนรักยังพร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาไปด้วยกัน เราต้องยอมรับว่าทุกอย่างมีปัญหาที่ต้องแก้ในตัวของมันเอง หากเกิดการล้ำเส้น คุณก็ต้องแก้ไขปัญหาให้เรียบร้อยเหมือนเดิมหรือปล่อยคนรักของคุณไปและพยายามให้ดีขึ้นในครั้งหน้า
Dr. Chris Donaghue คือนักพูด นักบำบัด ผู้จัดรายการสนทนา LoveLine ที่มีทุกสัปดาห์บนรายการ The Amber Rose Show และผู้ดำเนินรายการร่วมในรายการ The Doctors นอกจากนั้นเมื่อไม่นานมานี้เขาได้จัดรายการบนช่อง WE เรื่อง Sex Box และ Bad Sex ทางช่อง Logo และเขายังเป็นผู้เขียนหนังสือ Sex Outside the Lines: Authentic Sexuality in a Sexually Dysfunctional Culture ที่ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวางทั้งบนหนังสือ The New York Times และ Newsweek ไปจนถึง Cosmo และรายการ National Geographic คุณสามารถติดตามเขาได้บน Twitter และ Instagram
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2018 และมีการแก้ไขเพิ่มเติม