ศาลสูงสุดของ Costa Rica พลิกคำตัดสินของประเทศเพื่อความเท่าเทียมในการแต่งงาน
ศาลสูงสุดของ Costa Rica สั่งให้มีการออกกฎหมายเพื่อความเท่าเทียมในการแต่งงานก่อนปี 2020 โดยประกาศว่ากฎหมายครอบครัวของประเทศในปัจจุบันนั้น”ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและเป็นการแบ่งแยกอย่างชัดเจน”
นายกรัฐมนตรี Carlos Alvarado ต้อนรับการตัดสินเมื่อคืนวันพุธบน Twitter โดยเขียนว่า “เราจะยังคงมีการปรับใช้การปฏิบัติใดๆเพื่อยืนยันว่าจะไม่มีใครที่ถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมบนฐานของเพศหรือตัวตนของตัวเอง และการปกป้องของรัฐจะถูกมอบให้กับทุกครอบครัวอย่างเสมอกัน”
ศาลสูงสุดของ Costa Rica หรือ Fernando Castillo อธิบายว่าการห้ามการแต่งงานอย่างเท่าเทียมใดๆจะกลายเป็นโมฆะภายใน 18 เดือนไม่ว่าฝ่ายนิติบัญญัติจะทำอะไรหรือไม่ก็ตาม แต่ Enrique Sanchez สมาชิกรัฐสภาเพศทางเลือกคนแรกของ Costa Rican ยังคงสงสัยในความเป็นไปได้ภายในกรอบเวลาที่น้อยนิด โดยเฉพาะเมื่อเกือบ 1 ใน 4 ของรัฐสภาเป็นชาวคริสต์นิกายอีวานเจลิคัล
“สิ่งที่ผมคิดว่าจะเกิดขึ้นคือการห้ามการแต่งงานจะถูกประกาศว่าไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญในช่วงระยะเวลา 18 เดือนข้างหน้า” Sanchez กล่าวกับ Deutsche Welle ของประเทศเยอรมัน
ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชนตัดสินให้ทุกประเทศที่ลงชื่อในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งอเมริกาจะต้องทำการยอมรับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันหรืออย่างน้อยต้องยอมรับสิทธิที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง Costa Rica เป็นหนึ่งใน 24 ประเทศที่ลงชื่อสัญญา และความเท่าเทียมในการแต่งงานได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ในระหว่างการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีในเดือนเมษายน นักร้องชาวคริสต์นิกายอีวานเจลิคัล Fabricio Alvarado Muñoz ฝ่ายตรงข้ามของนายก Alvarado สัญญาว่าจะปฏิเสธการตัดสินของคณะกรรมาธิการหากเกิดขึ้นจริง โดยเรียกการตัดสินว่าเป็นการ”ดูหมื่นคุณค่าทางประเพณี” แม้ว่าผู้ลงสมัครนิกายคาทอลิก Alvarado (ด้านล่าง)จะได้รับคะแนนโหวตถึง 60% ก็ตาม
หากสภานิติบัญญัติทำการอนุมัติกฎหมายการแต่งงานระหว่างเกย์ นั่นจะทำให้ Costa Rica เป็นประเทศแรกในอเมริกากลางที่มีการยอมรับการแต่งงานอย่างเท่าเทียม (การแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันนั้นทำได้ในบางส่วนของประเทศเม็กซิโก)
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่การสรุปล่วงหน้า เพราะจากข้อมูลของศูนย์การวิจัย Pew Research Center ประชาชนกว่า 60% ของประเทศยังมีการต่อต้านการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน ในเดือนมกราคม ผู้ปกครองจำนวนมากปิดทางเข้าโรงเรียนและบังคับให้ลูกๆอยู่บ้านเพื่อประท้วงการสอน“คตินิยมทางเพศ”ในวิชาเพศศึกษา