Doc Martens: รองเท้าโปรดของนาซี พังค์ และร็อคกรันจ์

Doc Martens: รองเท้าโปรดของนาซี พังค์ และร็อคกรันจ์

Be first to like this.

This post is also available in: English

แฟชั่นคือเรื่องของความงามที่เจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าส้นสูงที่ทำให้เส้นเอ็นอักเสบ หรือเสื้อผ้ารัดๆที่ตามมาด้วยการติดเชื้อยีสท์และอื่นๆอีกมากมาย แต่นั่นคือความน่าสนใจของ Doc Martens เพราะเป็นแบรนด์แฟชั่นที่มีอายุนานหลายศตวรรษ และยังเป็นรองเท้าที่สวมใส่สบายอีกด้วยนะ

Docs เป็นรองเท้าที่ได้รับการออกแบบโดยแพทย์ชาวเยอรมันคนหนึ่งชื่อ Klaus Märtens ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าจากการเล่นสกีน้ำแข็งในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง (พรรคนาซีเหมือนจะมีความสามารถในการสร้างบริษัทรองเท้า เพราะแบรนด์ Adidas และ Puma ก็เกิดขึ้นที่เยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเช่นกัน) Martens ต้องการรองเท้าหนังที่สามารถรองรับแรงกระแทกจากการเดินและยืนได้ดี ในปี 1952 เขาได้เริ่มผลิตรองเท้าสุดพิเศษโดยใช้ยางที่เหลือใช้จากกองทัพ หลังจากนั้นไม่นานครอบครัวหนึ่งจากอังกฤษตัดสินใจซื้อลิขสิทธิ์ในการผลิตในสหราชอาณาจักร และปรับชื่อตรงคำว่า Märtens ให้ฟังดูมีความเป็นเยอรมันน้อยลง

ชาวอังกฤษได้พบเห็นรองเท้าบู้ทสัญชาติเยอรมันเป็นครั้งแรกในปี 1960 และได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มพนักงานไปรษณีย์และพนักงานโรงงานที่ต้องการความแข็งแรงและความสบายในการสวมใส่เป็นระยะเวลานาน แต่ความนิยมไม่ได้มาพร้อมกับความต้องการในด้านแฟชั่นในทันที เพราะ Docs เป็นเพียงแค่รองเท้าเพื่อการใช้งานจนกระทั่ง Pete Townshend จากวงร็อคคลาสสิค The Who เริ่มสวมรองเท้ารุ่น 1460 Docs ในช่วงปี 1966 “ผมเบื่อที่จะต้องแต่งตัวเหมือนต้นคริสต์มาสที่ไม่ได้ช่วยให้ผมเล่นกีต้าร์ได้สะดวกขึ้นเลย” Townshend เล่า “ผมเลยเปลี่ยนใจมาลองเครื่องแต่งกายเพื่อการใช้งานดูบ้าง”

หนึ่งทศวรรษให้หลัง Elton John ได้ปรากฎตัวในภาพยนตร์เรื่อง Tommy พร้อมกับ Docs สูง 4 ฟุตครึ่ง

รองเท้าแบรนด์นี้ปรากฎตัวครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาในปี 1984 จนกระทั่งตอนนั้น รองเท้าแบรนด์นี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มเหยียดเชื้อชาติในอังกฤษที่นิยมสวม Docs เดินไปไหนมาไหน “ผมซื้อ DM คู่แรกของตัวเองตอนที่ผมอายุ 12 ปี” Gavin Watson ช่างภาพมืออาชีพที่ถ่ายทำสารคดีวัฒนธรรมสกินเฮดในช่วงต้นยุค 80 กล่าว “และกฎที่รู้กันคือคุณต้องใช้รองเท้าเพื่อเตะใครสักคน จะเป็นใครก็ได้ ยิ่งถ้ามีเลือดติดรองเท้ามาด้วยยิ่งดี” นอกจากนั้นกลุ่มลูกค้าหลักอีกกลุ่มก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะใช้น้ำยาขัดรองเท้าสีดำเพื่อซ่อนแบรนด์สีเหลืองไม่ให้คนอื่นเห็น

มีหลายสาเหตุที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านวัฒนธรรมจะชอบ Doc Martens เป็นพิเศษ ทั้งราคาที่ไม่แพง ความสบายในการสวมใส่ และสินค้ามือสองที่หาซื้อได้ไม่ยาก ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้กลุ่มพังค์ สกินเฮด ก๊อธ และเด็กกรันจ์ชอบรองเท้าแบรนด์นี้มาก แต่ความเปลี่ยนแปลงก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ Doc Martens หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งยอดขายที่ลดลง และความเป็น”สินค้าที่ผลิตจากสหราชอาณาจักร”กลายเป็นสัญลักษณ์ของรองเท้าบู้ทที่เอ็กซ์คลูซีฟและราคาที่แพง ในขณะที่แบรนด์อื่นๆมีระบบการผลิตที่ประเทศไทยและประเทศจีน

Docs ไม่ใช่รองเท้าแบรนด์เดียวที่เปลี่ยนจากเครื่องสวมใส่เพื่อการใช้งานมาเป็นอุปกรณ์ด้านแฟชั่น แต่นั่นก็คือจุดประสงค์ของการมีทีมนักการตลาดในบริษัท แต่เสื้อผ้าเพื่อการใช้งานยังคงมีความ”แท้”ที่การมีแบรนด์ไม่สามารถทดแทนได้ อย่างเช่น Madewell หรือแบรนด์ของ J Crew ที่ซื้อเรื่องราวมาจากบริษัทผลิตเสื้อผ้าไร้รสนิยมใน Massachusetts หรือ Shinola บริษัทผู้ผลิตจักรยานและนาฬิกาธีม Detroit หลังจากที่บริษัทขัดรองเท้าชื่อดังปิดตัวลง

เครื่องแต่งกายแฟชั่นที่พยายามปลอมเป็นเครื่องแต่งกายเพื่อการใช้งานอาจจะดูดีและมีเรื่องราวที่น่าสนใจ — แต่ไม่มีวัฒนธรรมวัยรุ่นที่ไหนที่จะใช้นาฬิการาคา 16,000 บาทหรือกางเกางยีนส์สกินนี่ราคา 5,000 บาทเหมือนกับที่พวกเขาติด Doc Martens อย่างแน่นอน

คุณมี Doc Martens เป็นของตัวเองหรือเปล่า และคุณเคยได้ยินเรื่องราวประวัติของแบรนด์นี้บ้างไหม คอมเมนท์บอกเราได้ด้านล่าง

บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2016

Quantcast