ทำไมเกย์-เลสเบี้ยน-ไบและคนข้ามเพศ(LGBT)ชาวจีนถึงแห่มาหาเกย์ไทย(Gay Thailand)กัน
ในสายตาของชาวจีนแล้ว ประเทศไทศเป็นดินแดนแห่งรอยยิ้มและมีวัฒนธรรมอันสวยงาม เปรียบได้เหมือนบ้านหลังที่สอง ไม่แปลกใจที่ชาวจีนเพศที่สามเริ่มยอมจ่ายเงินมากมายเพื่อย้ายมาอาศัยอยู่ในไทย
ปัจจุบันนี้มีคู่รักเกย์หนุ่มในจีนหลายๆคู่ที่ฝันว่าซักวันหนึ่งจะมาอยู่ร่วมกับเกย์ไทย(Gay Thailand)และสามารถเป็นเจ้าของบ้านหรือที่ดินในประเทศที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งด้านอาหาร มีวัดวาอารามสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันสวยสดงดงาม และเกาะทรายขาวบนทะเลสีคราม ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ชาวเกย์จีนและเพศที่สามในจีนอยากที่จะย้ายมาอยู่ที่ไทยอย่างถาวร ก็คือเรื่องของการเปิดกว้างและยอมรับความแตกต่างของคนนั้นเอง
สภาพสังคมในประเทศจีนเมื่อเทียบกับไทยแล้ว ยังไม่ได้เปิดใจเปิดกว้างยอมรับเกย์เท่าไหร่นัก คู่รักเกย์จีนทั้งหลายจึงมักที่จะมาเที่ยวไทบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยติดใจในวิถีชีวิตของเกย์ไทย(Gay Thailand)และความเป็นมิตรของคนที่นี้ หากจะอยากจับมือถือแขนกัน นั่งแฮงค์เอาท์จิบเบียร์เย็นๆกับกลุ่มเพื่อนเกย์ในคลับบาร์ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
“พวกเรากำลังเก็บเงินเพื่อจะไปซื้อแฟลตอยู่ในไทยกันครับ” คุณลิว ครูสอนภาษาอังกฤษวัย 42 กล่าว “ตามที่วาดภาพไว้ก็คืออยากจะได้อพาร์ทเม้นหนึ่งห้องนอนในพัทยา”
ไหนจะปัญหาเรื่องความกลัวการอ่อนตัวของเงินหยวนในกลุ่มชนชั้นกลางของจีนอีก ทำให้กลุ่มเพศที่สาม(LGBT)ในจีนต่างก็อยากมาลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ซึ่งถูกกว่ามากในประเทศไทย
นายหน้าขายที่ในกรุงเทพฯได้บอกกับเราว่า “ณ ตอนนี้หนึ่งในสามจากลูกค้าทั้งหมดเลยของเราเป็นกลุ่มเกย์จากประเทศจีนครับ โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เคยมาเที่ยวไทยหลายต่อหลายครั้งแล้วและกำลังหาซื้อบ้านพักตากอากาศ ส่วนลูกค้าอีกกลุ่มก็จะเป็นเกย์จีนที่กำลังจะเกษียณครับ”
“เนื่องจากในจีนเนี่ย อสังหาริมทรัพย์นั้นแพงมากๆ เทียบกับในไทยแล้วคุ้มค่าเงินกว่ามาก ไหนจะเรื่องวัฒนธรรมที่ยอมรับและต้อนรับชาวเกย์ของคนไทยอีก ก็เลยทำให้ไทยนั้นไม่ได้เป็นแต่ที่นิยมของชาวตะวันตกเท่านั้นแต่เป็นที่ต้องการมากของชุมชนชาวเกย์ในจีน”
อย่างที่เราทราบกันว่ากฎหมายไทยยังไม่ปรับเปลี่ยนให้ความสำคัญกับสิทธิของเพศที่สามเท่าที่ควร แต่ในเรื่องเที่ยวและการต้อนรับเกย์ต่างชาตินั้น ประเทศไทยเราเต็มที่จริงๆเพราะมันคือการนำเงินเข้าประเทศ การจัดทัวร์และงานเทศกาลต่างๆอย่างสงกรานต์นั้นจึงทั้งอลังการ ดึงดูด และต้อนรับชาวเกย์อย่างยิ่ง
ตรงข้ามกับในประเทศจีนอย่างสิ้นเชิง ซึ่งถึงแม้จะไม่มีกฎหมายต่อต้านชายเกย์ แต่สังคมกลับยังมีอคติและปฏิบัติกับเกย์อย่างไม่เป็นธรรมมากๆ ตามสถิติแล้วพบว่าเพศที่สามในจีนนั้นมีเพียงแค่ 5 เปอร์เซ็นท์เท่านั้นที่กล้าเปิดเผยตัวตนในสังคม และที่กล้าบอกครอบครัวกับเพื่อนก็มีเพียงแค่ 15 เปอร์เซ็นท์
การแบ่งแยกในจีนนั้นมีสูงจริงๆ ขนาดแม้แต่หนังละครดังอย่างเรื่อง Addicted ยังโดนระงับไม่ให้ดูออนไลน์ เนื่องด้วยเหตุผลว่ามีฉากแสดงความรักของเกย์มากเกินไป และไหนจะหนังสือเรียนบางเล่มของจีนอีกที่ถึงขั้นระบุว่าคนรักร่วมเพศควรเข้ารับการรักษา ทั้งที่ประเทศจีนเองก็ได้ประกาศมานานแล้วว่าการรักร่วมเพศไม่ใช่อาการป่วยทางจิตใจ