James วงดนตรีป๊อปในตำนานของอังกฤษพึ่งจะปล่อยอัลบั้มที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบ 25 ปี
This post is also available in: English
สำหรับคนที่ชื่นชอบวัฒนธรรมป๊อป เกย์อย่างเราๆรักอะไรใหม่ๆที่น่าสนใจที่เราค้นพบ และดียิ่งขึ้นไปอีกหากพวกเขาเข้าใจมุมมองหรือเป็นแบบเดียวกับเรา และในฐานะคนที่คลั่งไคล้ภาพยนตร์และดนตรีคนหนึ่ง ผมก็ขอยกมือสารภาพผิดในข้อหานี้ แต่ยังไงผมก็ขอใช้ช่วงเวลานี้เพื่อชื่นชมวงดนตรีที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1982 และปล่อยอัลบั้มแรกของพวกเขาชื่อว่า Stutter ในปี 1986 และนี่ยังไม่รวม(อย่างที่ผมพอจะรู้)สมาชิกในวงที่เป็นเกย์อีกด้วย
James — วงดนตรีอังกฤษนำโดย Tim Booth ประสบความสำเร็จในสหรัฐด้วยอัลบั้ม Laid ที่เปิดตัวในปี 1993 (และเป็นชื่อเพลงหลักในอัลบั้มเช่นกัน) และยังมีเพลงที่ประสบความสำเร็จในหลายประเทศในระหว่างช่วง Madchester อย่างเพลง “Sit Down” พวกเขาแยกทางกันในช่วงกลางของยุค 2000 (ซึ่งเป็นเรื่องปกติ) และได้ทำการปล่อยเพลงที่ยอดเยี่ยมมาตั้งแต่ปี 2008
Living in Extraordinary Times อัลบั้มที่ 15 ของพวกเขาถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดตั้งแต่อัลบั้ม Laid และไม่ว่ามันจะเจ็บปวดแค่ไหน ผมก็คงต้องขอบคุณประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำให้วงนี้กลายเป็นวงร๊อคอินดี้สายประท้วงอย่างตอนนี้
“ผมกำลังเขียนเพลงในช่วงที่ทรัมป์กำลังมีอำนาจมากขึ้น และผมก็เขียนตามความรู้สึกของผม” Booth บอก “ผมไม่ค่อยมีเป้าหมายที่จะเขียนเพลงเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ หากมีอะไรที่เข้ามาในหัวผมก็จะเขียนมันออกมาเลย และทรัมป์ก็ปรากฎอยู่ทั่วอัลบั้มและทั่วเนื้อเพลงของผมจนผมรู้สึกแบบว่า’เห้ย ไม่นะ’ ผมไม่อยากให้คนคลั่งตัวเองคนนี้มาขโมยดนตรีของผมไป นึกออกใช่ไหม ผมเลยต้องโฟกัสมันให้อยู่ในที่เดียวกันในเพลง ‘Hank‘ ตอนนั้นผมคิดว่า ‘ทำให้มันรวมกันอยู่ในเพลงเดียวแล้วกัน’”
“Hank” เป็นเพลงที่ใช้เปิดอัลบั้ม Living in Extraordinary Times และหากว่าคุณยังไม่เข้าใจว่าวงรู้สึกโมโหขนาดไหนกับการเปลี่ยนถ่ายอำนาจครั้งนี้ (นี้ยังไม่รวมเรื่องปัญหา Brexit อีกนะ) ก็ลองอ่านส่วนหนึ่งของเนื้อเพลงดู: “นิ้วสั้นป้อมของไอ้บ้านี่” หรือ “ฟาสซิสต์ผิวขาวในทำเนียบขาว” “จะให้คุณค่ากับความจริงไปทำไมหากคุณโกหกได้ไม่ยาก”
แม้ว่าจะไม่มีอะไรที่ฟังดูรุนแรงไปมากกว่านี้ แต่ความโมโหกับสถาณการณ์การบริหารที่กำลังรื้อถอนความเป็นอเมริกาและคุณค่าที่พวกเรายึดถือก็สามารถรู้สึกได้จากเพลงที่เหลือในอัลบั้ม โดยเฉพาะ “Many Faces”
เพลงดังกล่าว Booth บอกว่า“ถูกเขียนขึ้นเพื่อเป็นการตอบคำพูดของทรัมป์ที่พูดว่า ‘เราจะสร้างกำแพง’ และคำพูดเหยียดหยามชาวเม็กซิกัน แต่ ‘Many Faces’ เป็นเหมือนเพลงเพื่อมนุษยชาติมากกว่า” James เปลี่ยนความน่ารังเกียจของทรัมป์ให้กลายเป็นเนื้อเพลงที่เป็นบวกที่สามารถร้องตามได้: “ในโลกนี้มีมนุษย์แค่ชาติพันธุ์เดียว แม้ว่าจะมากหน้าหลายตา แต่ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะอยู่บนโลกนี้”
แม้ว่าหลายๆสิ่งรอบตัวพวกเขาในโลกกำลังแตกสลาย แต่ Booth และวงก็ยังยึดมั่นในสิ่งที่สำคัญ ซึ่งก็คือความรักในเพลงอินดี้ป๊อปอย่าง “Leviathan” ครอบครัวและความเป็นพ่อในเพลง “Coming Home (Pt. 2)” ความจำเป็นที่เราจะต้องอ้อนวอนธรรมชาติอย่าง “Better Than That” และสุดท้ายพวกเขาก็ยังเตือนให้เรารู้ว่าพวกเราทุกคนกำลังเดินหน้าเผชิญเรื่องเหล่านี้ไปด้วยกัน
จำไว้ให้ดีล่ะเด็กน้อยทั้งหลาย