สาเหตุว่าทำไมผมถึงชอบมีความสัมพันธ์แบบเปิดมากกว่า

สาเหตุว่าทำไมผมถึงชอบมีความสัมพันธ์แบบเปิดมากกว่า

Be first to like this.

This post is also available in: English Español Português Русский Türkçe Українська

ผมไม่เคยที่จะวางแผนว่าจะมีความสัมพันธ์แบบเปิด ไม่ใช่เพราะว่าผมยึดติดกับการรักเดียวใจเดียวมาก แต่เพราะผมคิดว่ามันไม่ใช่สำหรับผม อีกอย่าง คนที่ผมโตมาด้วยล้วนมีความสัมพันธ์แบบรักเดียวใจเดียว ทั้งพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย เพื่อน และอื่นๆ (หรือพวกเขาอาจไม่ได้พูดกับลูกหลายเรื่องความสัมพันธ์แบบเปิด ผมมั่นใจว่าหลายๆคู่มีความสัมพันธ์แบบนั้น)

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ผมพบว่าตัวเองอยู่ในความสัมพันธ์หรือเดทกับผู้ชายที่ต้องการความสัมพันธ์แบบเปิด ซึ่งมักจะเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ผมเดทกับคนๆหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งปี ซึ่งเราไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบเปิด เธอ(เธอชอบให้ผมเรียกวาเธอ)กับผมเลิกกัน และผมก็เกิดอาการร่าน มันเป็นสิ่งที่ผมทำหลังจากเลิกกับใครสักคน แน่นอนว่ามันไม่ใช่วิธีที่ดีสำหรับทุกคน แต่สำหรับผมแล้ว มันเป็นสิ่งที่ช่วยไม่ให้ความคิดฟุ้งซ่านและช่วยให้ผม“กลับไปลงสนามได้อีกครั้ง” 

ผมก็มีอะไรกับชายคนแล้วคนเล่า และลองเดทกับบางคน พวกเขาสองคนล้วนต้องการความสัมพันธ์แบบทั่วไป ตอนที่ผมปฏิเสธคนที่สองตอนที่เขาขอคบกัน เขาถึงกับร้องไห้ออกมา

ผมเข้าใจตอนนั้นว่าการมีเซ็กส์แบบรัวๆของผมจริงๆแล้วมันทำร้ายคนอื่น ผมจึงต้องไม่เดทใครเลย แค่เอากันไปเรื่อยๆแค่นั้น หลังจากนั้นผมก็ได้พบกับ Jason รายละเอียดช่วงนั้นคุณสามารถอ่านได้ที่นี่ เขามีภรรยา มีทั้งแฟนหนุ่มและแฟนสาวในขณะเดียวกัน ผมจึงตกลงที่จะเดทกับเขาเพราะคิดว่ามันคงไม่จริงจังอะไร เขาคงแทบไม่มีเวลาว่างอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ ตัดภาพอีกทีมาที่ผมอาศัยอยู่กับเขาและภรรยาในความสัมพันธ์แบบเปิด และมันเป็นปีที่ดีที่สุดในชีวิตของผม หลังจากนั้นผมจึงไม่ปริปากบ่นเรื่องความสัมพันธ์แบบเปิดอีกเลย จริงๆแล้วผมคิดว่าผมชอบนะ ชอบกว่าความสัมพันธ์แบบทั่วไปด้วยซ้ำ!

หากคุณมีความสัมพันธ์แบบเปิดกับใครสักคน คุณก็จะได้เดทจริงๆนั่นแหละ มันไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์ และบ่อยครั้งที่พวกเขาก็ไม่ได้อยากจะมีทันที อย่างหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นในชุมชนเกย์ก็คือคุณจะมีอะไรกันและไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก (ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร มันเกิดขึ้นบ่อยๆในชีวิตของผมมาก คุณแค่ต้องมั่นใจว่าคุณต้องการอะไรกันแน่และต้องไม่ทำให้ใครเจ็บเข้าเท่านั้น) หรือพวกเขาอยากมีแฟนมากๆจนขอคุณคบเป็นแฟนในความสัมพันธ์แบบเปิดสองสัปดาห์ให้หลัง

ไม่ล่ะ

ผมไม่ได้รู้จักคุณขนาดที่จะผูกมัดตัวเองไว้กับคุณได้ และคุณก็ไม่ได้รู้จักผมดีด้วย คุณแค่ชอบที่จะมีผม ไม่ได้อยากที่จะมีใครสักคนเป็นแฟน คุณไม่รู้ว่าจริงๆผมก็บ้าๆบอๆพอสมควร ฉะนั้นเพื่อตัวคุณเอง อย่ารีบเดทผมเลย เข้าใจไหม?

อย่างหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าดึงดูดสำหรับความสัมพันธ์แบบเปิดก็คือสถานการณ์ความเสี่ยงต่ำผลประกอบการสูง เวลาที่ผมกำลังเดทใครสักคน ไม่ว่าผมจะพยายามไม่ฟังเสียงนั้นสักคแค่ไหน สุดท้ายผมมักจะได้ยินตัวเองถามอยู่เสมอว่า “ความสัมพันธ์นี้กำลังไปทางไหนอยู่”

สาเหตุก็เพราะว่าเมื่อผมเดทกับใครในแบบเดิมๆ ผมมักจะคิดถึงสิ่งที่จะตามมาว่ามันก็จะเป็นแบบเดิมๆ ซึ่งก็คือการแต่งงานและการครองคู่ของคนสองคน

แต่เมื่อผมเดทในแบบที่แตกต่าง (การมีความสัมพันธ์แบบเปิด) ผมก็ลืมเรื่องเหล่านั้นไปเลย

หากผมคบกับใครที่มีความรักอยู่แล้ว หรือแม้กระทั่งแต่งงานแล้ว ผมรู้ว่าผมไม่สามารถแต่งงานกับเขาได้ ผมก็จะรู้ว่านี่ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบดั้งเดิม และผมก็จะไม่ยึดติดว่ามันจะต้องเป็นเช่นนั้น

มันทำให้ผมไม่รู้สึกเครียด มีช่องว่างให้ตัวเองได้หายใจ และไม่ยึดติดกับอนาคตและใช้ชีวิตในปัจจุบัน ผมใช้เวลากับชายคนนี้เพราะผมมีความสุขที่จะใช้เวลากับเขา ง่ายๆแค่นั้นเอง

ยังไงซะผมก็ไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนี้ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์นี้อาจจะไม่ยั่งยืนในระยะยาว มันอาจจะเกิดขึ้นจริงก็ได้ เราอาจจะมีความสัมพันธ์แบบสามคน เขาอาจจะทิ้งแฟนมาหาผม (แม้ว่านั้นจะเป็นเป้าหมายที่แท้จริง) หรือเป็นอย่างอื่นโดยสิ้นเชิง แต่ในความเป็นจริงแล้วมันคงไม่กลายเป็นความสัมพันธ์ระยะยาว และมันไม่เป็นไรสำหรับผม บ่อยครั้งที่เรามักจะมองว่าความสัมพันธ์ที่ประสบความสำเร็จคือความสัมพันธ์ที่ยาวนานจนกว่าใครสักคนจะจากไป จนถึงตอนนั้น ความสัมพันธ์จึงจะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

แต่มันโกหกสิ้นดี ผมมองย้อนกลับไปยังความสัมพันธ์ส่วนใหญ่ที่ผมเคยมี ความสัมพันธ์เหล่านั้นไม่ได้กลายเป็นความสัมพันธ์ระยะยาว และผมก็แทบจะไม่ได้คุยกับคนที่ผมเคยคบด้วย ดังนั้นจะบอกว่าผมได้เพื่อนคนสำคัญในชีวิตก็คงไม่ได้ แต่ตอนที่คบกันนั้นผมรู้สึกเติมเต็มในความสัมพันธ์และผมก็ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆในตัวเอง ผมจึงคิดว่าความสัมพันธ์เหล่านั้นประสบความสำเร็จ แม้ว่ามันจะต้องจบลงก็ตาม

ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา งานวิจัยชิ้นหนึ่งถามเกย์ 832 คนในช่วงอายุ 18-39 เกี่ยวกับพฤติกรรมในการเดทและความสัมพันธ์ที่พวกเขากำลังมองหา 89% ของคนโสดอายุ 25 และต่ำกว่ากำลังมองหาความสัมพันธ์แบบปิด ขณะที่ 93% ของชายอายุ 26-30 และ 92% ของชายอายุ 31-39 กำลังมองหาความสัมพันธ์แบบเดียวกัน

ดูเหมือนว่าเกย์จะต้องการความสัมพันธ์แบบปิดมากขึ้น ยังไงซะ คุณก็ทำสิ่งที่เหมาะกับคุณที่สุดและคบกับใครที่ทำให้คุณรู้สึกเติมเต็ม ผมก็อยากจะบอกว่าอย่าพึ่งคิดว่าอะไรไม่ดีจนกว่าจะได้ลอง ผมไม่เคยคิดว่าผมจะมีความสัมพันธ์แบบเปิดกับใคร แล้วดูผมตอนนี้สิ เดทกับทั้งแฟนและสามีของใครหลายๆคน และผมก็มีความสุขดี

คุณมีความเห็นอย่างไรบ้างเกี่ยวกับความสัมพันธ์แบบเปิด คุณเคยลองมีความสัมพันธ์แบบเปิดมาก่อนหรือเปล่า

บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2018 และมีการแก้ไขเพิ่มเติม

Related Stories

'Hogwarts Legacy' จะพาตัวเองออกห่างความเหยียดคนข้ามเพศของ JK Rowling ได้หรือไม่
ถ้าอยากกินไก่ จำไว้ว่า Chick-fil-A ยังเหยียดเกย์อยู่เหมือนเดิม
สตรีราชาชาวแอฟริกันกับการท้าทายเพศไบนารีในยุคศตวรรษที่ 17
เราถามคุณหมอเกย์เกี่ยวกับยาป๊อปเปอร์ส
Quantcast