การ์ตูนเรื่อง ‘Nausicaa’ ของ Miyazaki กับการพลิกโฉมหน้าวงการแอนิเมชั่นและวีดีโอเกม

การ์ตูนเรื่อง ‘Nausicaa’ ของ Miyazaki กับการพลิกโฉมหน้าวงการแอนิเมชั่นและวีดีโอเกม

Be first to like this.

This post is also available in: English Español Русский

เมื่อคุณหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งเวทมนตร์ของ Hayao Miyazaki กับภาพยนตร์การ์ตูนจาก Studio Ghibli Films อย่าง Spirited Away และ Princess Mononoke หรือ My Neighbor Totoro คุณกำลังมีความสุขไปกับโลกแฟนตาซีที่ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในช่วงกลางยุค 1980 โดยภาพยนตร์เรื่อง Nausicaa of the Valley of the Wind ได้เปิดตัวขึ้นไม่นานนักก่อนที่ Ghibli จะก่อตั้ง แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นรากฐานให้กับฮีโร่ผู้หญิงที่ยังคงมีบทบาทอยู่ในทุกวันนี้

ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวเมื่อประมาณ 5 ปีหลังจากการเริ่มเป็นผู้กำกับของ Miyazaki ในเรื่อง Castle of Cagliostro หลังจากนั้น Miyazaki ก็ได้เริ่มลงมือเขียนงานมังงะที่กลายเป็นเรื่องราวของ Nausicaa และได้รับการตอบรับอย่างดีในนิตยสาร Animage

สตูดิโอ Topcraft ถูกเลือกให้เป็นผู้ผลิตการ์ตูนเรื่องนี้เวอร์ชั่นแอนิเมชั่น โดยมีข้อแม้ว่า Miyazaki จะต้องเป็นผู้กำกับ ในตอนนั้นยังมีจำนวนตอนไม่มากนักจากเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูน ทำให้เรื่องราวเกือบทั้งหมดเกิดขึ้นระหว่างการเขียนสตอรี่บอร์ด การผลิตทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและใช้งบประมาณทั้งหมดเพียงประมาณสามสิบล้านบาทเท่านั้น — ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินที่น้อยมากกับการที่แอนิเมชั่นเรื่องนี้กลายเป็นการ์ตูนคลาสสิคที่ทุกๆคนหลงรัก

และเป็นธรรมดาที่เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษจะทำให้เกิดการโต้เถียง โดยมีนักวิชาการจำนวนมากที่ออกมาชี้ว่าการใช้คำว่า “เด็กดี” ที่แสดงออกถึงการเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านแทนการใช้คำว่า “ลูกที่ดี” จากบทเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น ทำให้ Nausicaa ภาคภาษาอังกฤษนั้นกลายเป็นเรื่องราวการปกป้องมนุษย์ ในขณะที่ภาคภาษาญี่ปุ่นเป็นเรื่องราวของผู้พิทักษ์ธรรมชาติ

แต่นั่นยังไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่กว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงแรก เพราะผู้กระจายภาพยนตร์ในอเมริกาได้ทำการเปลี่ยนชื่อภาพยนตร์เป็น Warriors of the Wind และยังตัดเนื้อหาออกไปเกือบครี่งชั่วโมง มีการแปลภาษาที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงได้ทำการโฆษณาออกไปไม่ตามความเป็นจริงในภาพยนตร์อีกด้วย

หนึ่งในเครื่องหมายการค้าของ Miyazaki คือเรือบินแฟนตาซี และในเรื่องนี้ก็คือเครื่องร่อนขนาดเล็กสำหรับหนึ่งคนที่เรียกว่า “Mehve” โดยชื่อของเครื่องร่อนนี้มาจากคำภาษาเยอรมันคำว่า “gull” และหลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป วิศวกรจำนวนมากก็ได้พยายามสร้างเวอร์ชั่นของจริงออกมาโดยใช้เครื่องยนตร์เจ็ทและสามารถใช้งานได้จริงตั้งแต่ปี 2013

ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว และยังได้รับการยอมรับว่าเป็นผลงานที่เปลี่ยนแปลงเส้นทางของวงการแอนิเมชั่นประเทศญี่ปุ่น หลังจากความสำเร็จนี้ Miyazaki และทีมงานก็สามารถสร้างสตูดิโอ Studio Ghibli ที่สร้างผลงานภาพยนตร์แอนิเมชั่นคุณภาพดีที่มาพร้อมกับธีมโลกแห่งแฟนตาซี ฮีโร่ตัวน้อย และสตรีผู้กล้าหาญ

ผลงานที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Nausicaa ก็เช่น Final Fantasy ในตัวละครโชโคโบะ รวมถึงเกมอย่าง Crysalis หรือ Metal Slug 3 Cyber Core และยังมี Viewpoint ที่มีตัวละครคล้ายๆกับเจ้า Ohmu ในเรื่องอีกด้วย

คงจะเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการโลกแห่งแอนิเมชั่นที่ไม่ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานชิ้นเอกจาก Ghibli รวมถึงเกม มังงะ และแอนิเมะที่เราได้สัมผัสในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เมื่อแฟนๆนึกถึงสื่อของญี่ปุ่น หลายๆคนจะต้องนึกถึง Nausicaa — ผลงานชิ้นโบว์แดงของ Hayao Miyazaki

คุณเคยดู Nausicaa of the Valley of the Wind หรือเปล่า เล่าเรื่องราวภาพยนตร์ของ Hayao Miyazaki ที่คุณชอบให้เราฟังได้ที่คอมเมนท์ด้านล่าง

Quantcast