ในฤดูแห่ง Pride จำให้ขึ้นใจว่า ‘ไม่เจอ = ไม่แพร่’
เจเนอเรชั่น Y และ Z ถึงตาของคุณแล้วในการเป็นนักเคลื่อนไหวโรคเอดส์ เป็นเรื่องยอดเยี่ยมที่เราจะได้เฉลิมฉลอง Pride มีเซ็กส์ให้พอใจ และสนุกไปกับครอบครัวเพศทางเลือกของคุณ แต่ท่ามกลางความสนุกก็อย่าลืมว่าชาวเพศทางเลือกมีการเสียชีวิตจากเชื้อเอดส์ในประเทศสหรัฐ และมากกว่าปกติในการปกครองของประธานาธิบดี Trump
Trump พึ่งนำเสนอการใช้งบประมาณสำหรับปี 2019 ซึ่งจะมีการตัดงบรัฐบาลที่ใช้สำหรับสนับสนุนองค์กรที่ต่อสู้กับเชื้อ HIV และโรคเอดส์ทั่วโลก ทั้งจาก AIDS Education and Training Centers (AETCs) และ Special Projects of National Significance (SPNS) ซึ่งอยู่ภายใต้โปรแกรมของ Ryan White HIV/AIDS
คนที่มีเชื้อ HIV จำนวนมากที่ไม่มีประกันสุขภาพต้องพึ่งพา Ryan White เพื่อเข้าถึงยาและการบำบัดรักษาเชื้อ HIV ซึ่งผมก็เคยอยู่ในสถานการณ์นั้นเช่นกัน โปรแกรมเหล่านี้ช่วยเหลือประชากรที่อยู่ภายใต้แรงกดดันของปัญหามากที่สุด ได้แก่สตรีแปลงเพศและชายผิวสีที่ร่วมเพศกับชายด้วยกันเอง
Trump เสนอให้ตัดงบประมาณราว 1 พันล้านบาทจากงานวิจัยและการป้องกันเชื้อ HIV และโรคเอดส์ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งอเมริกา (CDC) และ Trump ยังต้องการตัดงบประมาณของโปรแกรม Housing Opportunities for Persons with AIDS (HOPWA) ที่ช่วยเหลือประชาชนที่มีเชื้อ HIV และมีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัย Trump ยังเสนออีกว่าจะตัดงบประมาณของโปรแกรมต่างๆที่ต่อสู้กับเชื้อ HIV ในระดับโลกถึงราว 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์เพิ่มขึ้น 1 ล้านคนทั่วโลก
เราเห็นแล้วว่า Trump ใส่ใจความต้องการของประชาชนเพศทางเลือกที่ติดเชื้อ HIV แค่ไหนในงาน World AIDS Day เมื่อปีที่แล้ว ในคำประกาศอย่างเป็นทางการของ Trump เขาไม่ได้พูดถึงประชาชนเพศทางเลือกชาวอเมริกาแม้แต่น้อย — แม้ว่าเราจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเชื้อ HIV และโรคเอดส์มากที่สุดในประเทศสหรัฐ การถูกเมินจากแหล่งที่สูงที่สุดในประเทศเป็นการทำร้ายเราโดยตรง กลุ่มเพศทางเลือกเป็นกลุ่มหลักของผู้ติดเชื้อในอเมริกา และคุณคงไม่สามารถต่อสู้กับปัญหาได้หากละเลยข้อเท็จจริงนี้และความต้องการของชุมชนและวัฒนธรรมของเรา
Mike Pence รองประธานาธิบดีของ Trump เขียนในปี 2002 ว่า“พรรคคองเกรสควรจะให้อำนาจและสนับสนุน Ryan White Care Act อีกครั้ง” และเสนอให้งบประมาณที่จัดสรร“ถูกมอบให้กับสถาบันที่ช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางเพศของตัวเอง” — หรือที่เรียกอีกอย่างก็คือการบำบัดรักร่วมเพศที่องค์กรด้านสุขภาพที่ไว้ใจได้หลายแห่งประกาศหลายครั้งว่าเป็นการกระทำที่อันตรายและไม่มีการสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์
แล้วคุณจะทำอะไรได้บ้าง เราจะต่อสู้กับปัญหานี้อย่างไรดี สิ่งที่คุณทำได้ก็คือการบอกกับทุกๆคนให้เข้าใจประโยคที่ว่า “ไม่เจอ = ไม่แพร่” หมายความว่าใครก็ตามที่มีปริมาณเชื้อน้อยมากจนตรวจไม่พบ ซึ่งเป็นผลจากการทานยาอย่างสม่ำเสมอ ไม่สามารถเป็นผู้แพร่เชื้อได้และไม่เป็นภัยต่อคู่นอนไม่ว่าจะมีการใช้ถุงยางหรือยา PrEP (ยาทานประจำวันที่จะลดโอกาสติดเชื้อ HIV) หรือไม่ก็ตาม
มีหลายเหตุผลว่าทำไมประโยคที่ว่าไม่เจอ = ไม่แพร่จึงไม่ได้รับการเผยแพร่อย่างสม่ำเสมอทั้งจากผู้ช่วยเหลือด้าน HIV และสื่อของเพศทางเลือก มลทินติดตัว การขาดความรู้ อคติทางวัฒนธรรมทำให้ผลของการใช้ยาในปัจจุบันฟังดูเป็นเรื่องดีเกินจริง บางองค์กรบอกว่าการใช้ยานั้น“ลดความเสี่ยงได้อย่างมาก”หรือบอกว่าความเสี่ยงนั้น“เรียกได้ว่าเป็นศูนย์”
ซึ่งมันเป็นศูนย์จริงๆ คนที่มีเชื้อและทานยาอย่างสม่ำเสมอไม่มีโอกาสที่จะแพร่เชื้อได้เลย
ในปี 2008 Swiss Statement เขียนโดย Dr. Pietro Vernazza และเผยแพร่โดย Swiss Federal Commission for Sexual Health เป็นงานแรกที่ยืนยันประโยคดังกล่าว แม้ว่าการเผยแพร่นั้นจะถูกโจมตีจากหลายกลุ่ม แต่ข้อค้นพบนั้นได้รับการยืนยันผ่านงานวิจัยอีกหลายชิ้น รวมไปถึงงานวิจัย PARTNER ซึ่งเป็นงานที่แพร่หลายที่สุดในขณะนั้น การศึกษาเหล่านั้นต่างถูกโจมตีด้วยอคติของอุตสาหกรรม การเมือง และความเชื่อต่างๆ แต่หลักฐานที่เราเห็นนั้นเป็นจริงที่สุด
เป็นความจริงที่ยา PrEP เป็นการค้นพบที่ยอดเยี่ยม ยาที่จะต่อต้านเชื้อ HIV เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าเป็นไปได้เมื่อ 20 ปีก่อน แต่ยาที่ได้รับการอนุมัติในปัจจุบันอย่าง PrEP และ Truvada (และอื่นๆที่กำลังตามมา) เป็นยาที่มีราคาแพง ซึ่งประชากรที่มีเชื้อกลุ่มหลัก เช่นคนผิวสีและกลุ่มเพศทางเลือกที่ไม่มีประกันสุขภาพแทบจะเข้าถึงไม่ได้เลย ฉะนั้น การค้นพบว่า”ไม่เจอ = ไม่แพร่”จึงเป็นการค้นพบที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่การระบาดครั้งร้ายแรงเกิดขึ้น
ในฤดูแห่ง Pride นี้ ช่วยกันประกาศให้ทุกคนรู้ว่าไม่เจอเท่ากับไม่แพร่ หากองค์กรที่ใกล้ตัวคุณที่ดูแลด้าน HIV หรือกลุ่มผู้รับผิดชอบยังไม่มีการประกาศหรือนำเสนอสื่อใดๆที่จะทำให้ประชาชนรู้ถึงการค้นพบนี้ ถามเหตุผลของพวกเขาให้เข้าใจ และแนะนำเว็บไซต์ Prevention Access ให้พวกเขาหากจำเป็น ที่ Access Prevention จะมีรายชื่อประเทศที่มีการยืนยันข้อค้นพบดังกล่าว ซึ่งรวมไปถึงศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคอีกด้วย
การช่วยเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวเป็นงานหลักของนักเคลื่อนไหว HIV ทั่วโลก และเราภูมิใจที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้
