ประธานบริษัท Grindr: ‘ผมเห็นด้วยว่าการแต่งงานเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ระหว่างผู้ชายและผู้หญิง’
เกย์จำนวนมากตกใจเมื่อได้ยินว่าประธานบริษัท Grindr อย่าง Scott Chen เชื่อว่าการแต่งงานเป็น”พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ระหว่างผู้ชายและผู้หญิง” และที่ทำให้มันแปลกไปมากกว่านั้นก็คือคำพูดของ Chen มาจากบริษัทสื่อที่เป็นส่วนหนึ่งของ Grindr เอง โดย Into นั้นดำเนินการและเป็นเจ้าของโดย Grindr ซึ่งถูกซื้อไปโดยบริษัทเทคโนโลยีในจีนชื่อ Kunlun Group เมื่อปีก่อนหน้า
การประกาศของ Scott Chen ประธานบริษัท Grindr และอดีต CTO ของบริษัทถูกโพสท์บน Facebook และถูกลบในภายหลัง ซึ่งเป็นการพูดถึงข่าว CEO ของ HTC Cher Wang กับการแอบสนับสนุนกลุ่มต่อต้านเพศทางเลือกในประเทศไต้หวันก่อนจะมีการลงคะแนนเสียงประชามติเกี่ยวกับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน
“มีคนจำนวนมากที่เห็นด้วยว่าการแต่งงานเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ระหว่างชายและหญิง ซึ่งผมเห็นด้วยกับประโยคนั้น แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมจะไปตัดสินใคร” คอมเมนท์ของ Chen เขียนไว้ “นอกจากนั้นยังมีอีกหลายคนที่มองว่าการแต่งงานเป็นการนำไปสู่การมีลูกที่มีเชื้อสายของทั้งสองคน และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องของเราอีกเช่นกัน มีคนจำนวนมากที่แตกต่างจากคุณที่อยากจะแต่งงาน และพวกเขาก็มีเหตุผลของตัวเอง”
ประธาน Grindr ยังบอกต่ออีกว่าเวลาที่เรามีควรจะนำไปใช้คิดแก้ปัญหาความยากจน ความหิวโหย และคนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามมากกว่า
Scott Chen สรุปสุดท้ายโดยบอกว่าเขาจะไม่ใช้สินค้าจาก HTC หลังจากการสนับสนุนการต่อต้านเพศทางเลือกของ Cher Wang ในไต้หวันถูกเปิดเผย และเขาก็จะไม่บริจาคเงินให้กับองค์กรคริสเตียนในไต้หวันอีกด้วย
คำพูดของเขาในครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำสิ่งที่อาจจะไม่ดีนัก เพราะในเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา แอพหาคู่นี้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่เมื่อข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้หลายล้านคน รวมถึงข้อความและตำแหน่งของผู้ใช้ (แม้ว่าผู้ใช้จะปฏิเสธการให้ข้อมูล GPS ก็ตาม) ถูกเปิดเผย และเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาเราก็ได้เห็น Grindr เผชิญกับปัญหาความเป็นส่วนตัวอีกครั้งเมื่อแอพบุคคลที่สามสามารถรู้ข้อมูลตำแหน่งของผู้ใช้ได้อย่างชัดเจน
จากบทความของ The New York Times เขียนว่า “เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญที่ทำการติดตามข้อมูลในจีนและเจ้าหน้าที่ดำเนินการด้านการต่างประเทศในสหรัฐ”รู้สึกตระหนกกับการซื้อ Grindr ของ Kunlun Group โดยเฉพาะในด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้แอพพลิเคชั่น เพราะรัฐบาลจีนสามารถที่จะบังคับให้เปิดเผยข้อมูลต่อรัฐไม่ว่าผู้ใช้จะเป็นประชาชนชาวจีนหรือไม่ก็ตาม
(อย่างไรก็ตาม Hornet ยังคงยึดมั่นในความปลอดภัยและการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้แอพพลิเคชั่นเช่นเคย)
